ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก

สเปนโชว์ฟอร์มดุ เปิดบ้านถล่มเซอร์เบีย 3-0 การันตีเข้ารอบน็อกเอาต์ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก

เมื่อค่ำคืนวันที่ 15 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา การแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ฤดูกาล 2024/25 ลีก เอ กลุ่ม 4 นัดที่ 4 มีแมตช์ที่น่าสนใจระหว่าง “กระทิงดุ” สเปน เปิดสนามเอสตาดิโอ้ นูเอโว อาร์คานเกล พบกับทีมเซอร์เบีย แมตช์นี้เป็นการแข่งขันที่มีความหมายสำหรับสเปนอย่างยิ่ง เพราะพวกเขาต้องการชัยชนะเพื่อการันตีการผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย และพวกเขาก็ทำได้สำเร็จอย่างงดงามด้วยการถล่มเอาชนะเซอร์เบีย 3-0

สเปนฟอร์มแกร่ง ไล่ถล่มเซอร์เบียขาดลอย

เกมนี้เริ่มต้นขึ้นโดยที่สเปนบุกใส่อย่างเต็มที่ไม่เปิดโอกาสให้เซอร์เบียได้ตั้งตัว แค่เพียงนาทีที่ 5 ทัพกระทิงดุก็สามารถขึ้นนำได้จากลูกโหม่งของอายเมริค ลาปอร์ต ที่กระโดดขึ้นมาแทรกกลางแนวรับเซอร์เบียได้อย่างเฉียบขาด สเปนเดินหน้าใส่ความกดดันต่อเนื่อง พยายามครองบอลและเล่นเกมรุกอย่างเป็นระบบ ทำให้เซอร์เบียต้องถอยร่นไปตั้งรับเกือบตลอดเกม

ครึ่งหลังเริ่มขึ้น สเปนยังคงเดินเกมรุกอย่างต่อเนื่อง และมาได้ประตูที่สองในนาทีที่ 65 จากอัลบาโร่ โมราต้า ที่โชว์ความคล่องตัวหลบกองหลังเซอร์เบีย ก่อนยิงเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ช่วงท้ายเกม เซอร์เบียต้องเจอกับปัญหาใหญ่เมื่อสตราฮินย่า พาฟโลวิช ถูกไล่ออกจากสนามในนาทีที่ 76 หลังจากที่ได้รับใบเหลืองที่สอง กลายเป็นใบแดง ทำให้เซอร์เบียเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน

สเปนอาศัยความได้เปรียบนี้บุกอย่างหนัก และอเล็กซ์ บาเอน่า ก็มายิงประตูปิดท้ายในนาทีที่ 77 จบเกมด้วยสกอร์ 3-0 สเปนเก็บเพิ่ม 3 แต้มเต็ม มีคะแนนรวม 10 คะแนนจากการลงสนาม 4 นัด ทำให้พวกเขาการันตีผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ของยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2024/25 อย่างเป็นทางการ

วิเคราะห์การแข่งขัน: การบุกที่เป็นระบบและเกมรับที่เหนียวแน่นของสเปน

สิ่งที่ทำให้สเปนได้เปรียบอย่างมากในเกมนี้คือการเล่นที่เป็นระบบ พวกเขาสามารถครองบอลได้เกือบ 70% ของเกม แผงมิดฟิลด์ที่ประกอบไปด้วยผู้เล่นชั้นนำเช่น เปดรี้ และ โกเก้ ช่วยสร้างสรรค์เกมรุกได้อย่างลื่นไหล นอกจากนี้กองหลังยังป้องกันแน่นหนา ทำให้เซอร์เบียไม่สามารถหาจังหวะทำเกมสวนกลับได้เลยตลอดทั้งเกม

การเล่นของเซอร์เบียในเกมนี้ถือว่าไม่ประสบความสำเร็จ พวกเขามีโอกาสยิงเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น และการที่ต้องเล่นเพียง 10 คนในช่วงท้ายเกมยิ่งทำให้สถานการณ์ยากขึ้นไปอีก

โปรตุเกสเจอเกมรับสุดแกร่ง บุกเสมอสกอตแลนด์ 0-0

อีกหนึ่งเกมที่น่าสนใจในกลุ่ม 1 ของลีก เอ เป็นการพบกันระหว่างสกอตแลนด์กับโปรตุเกส โดยที่สกอตแลนด์เป็นฝ่ายเปิดบ้านแฮมป์เดน พาร์คต้อนรับทีมโปรตุเกส ซึ่งนำโดยซุปเปอร์สตาร์อย่างคริสเตียโน โรนัลโด แต่เกมนี้โปรตุเกสไม่สามารถทำประตูได้ เนื่องจากการป้องกันที่เหนียวแน่นของทีมเจ้าบ้าน ทำให้เกมจบลงด้วยสกอร์ 0-0

การป้องกันที่เป็นเลิศของสกอตแลนด์

เกมนี้สกอตแลนด์เตรียมตัวมาเป็นอย่างดี พวกเขาใช้แผนการเล่นที่เน้นการตั้งรับและการสวนกลับอย่างรวดเร็ว การเล่นแบบนี้ทำให้โปรตุเกสที่เน้นเกมรุกตลอดทั้งเกมไม่สามารถหาจังหวะยิงที่ชัดเจนได้เลย ผู้รักษาประตูของสกอตแลนด์โชว์ฟอร์มเซฟลูกยากหลายครั้ง ช่วยให้ทีมสามารถเก็บ 1 แต้มสำคัญจากแมตช์นี้ได้สำเร็จ

แม้ว่าผลการแข่งขันจะจบลงด้วยการเสมอกัน แต่โปรตุเกสก็ยังคงนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม 1 ด้วยคะแนนรวม 10 คะแนน จากการแข่ง 4 นัด ขณะที่สกอตแลนด์ยังคงมีแค่ 1 คะแนน รั้งอันดับสุดท้ายของกลุ่ม

ผลบอล ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 15 ตุลาคม 2567

  • โปแลนด์ 3-3 โครเอเชีย
    เกมนี้เป็นเกมที่สนุกและตื่นเต้นมากที่สุดในค่ำคืนนี้ โปแลนด์และโครเอเชียเล่นได้อย่างสูสี ตลอดทั้งเกมทั้งสองทีมมีโอกาสยิงประตูหลายครั้ง จนจบลงด้วยการแบ่งแต้มกันไปด้วยสกอร์ 3-3
  • สวิตเซอร์แลนด์ 2-2 เดนมาร์ก
    อีกหนึ่งเกมที่ไม่ควรพลาด สวิตเซอร์แลนด์และเดนมาร์กแสดงให้เห็นถึงการต่อสู้ที่ดุเดือดและไม่ยอมแพ้กันง่าย ๆ ทำให้แฟนบอลได้เห็นประตูมากถึง 4 ลูกในเกมนี้
  • โคโซโว 3-0 ไซปรัส
    โคโซโวโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยม เอาชนะไซปรัสไปได้อย่างขาดลอย 3-0 ถือเป็นแมตช์ที่สร้างความประทับใจให้กับแฟนบอลเจ้าบ้าน
  • เบลารุส 1-1 ลักเซมเบิร์ก
    เกมนี้จบลงด้วยผลเสมอ ทั้งสองทีมพยายามอย่างเต็มที่ แต่ไม่สามารถหาจังหวะยิงประตูชัยได้ ทำให้ต้องแบ่งแต้มกันไปคนละ 1 คะแนน
  • ไอร์แลนด์เหนือ 5-0 บัลแกเรีย
    ไอร์แลนด์เหนือทำผลงานยอดเยี่ยม เอาชนะบัลแกเรียไปได้อย่างถล่มทลายถึง 5-0 ส่งเสียงเฮของแฟนบอลดังกึกก้องทั่วสนาม
  • ลิทัวเนีย 1-2 โรมาเนีย
    เกมนี้โรมาเนียบุกมาเอาชนะลิทัวเนียได้อย่างหวุดหวิด ทำให้พวกเขายังคงมีโอกาสลุ้นเข้ารอบต่อไปในลีก ซี

สรุปผลการแข่งขัน

ผลบอล ค่ำคืนวันที่ 15 ตุลาคม 2567 เป็นอีกหนึ่งวันที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นในการแข่งขันยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก หลายทีมสามารถคว้าชัยชนะสำคัญได้ และหลายทีมยังคงต้องทำงานหนักต่อไปในการแข่งขันนัดถัดไป ผลการแข่งขันในรอบนี้จะทำให้การแข่งขันในรอบถัดไปยิ่งเข้มข้นขึ้น ทุกทีมต่างแสดงให้เห็นถึงความสามารถและความมุ่งมั่นในการต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีและโอกาสเข้าสู่รอบต่อไปในการแข่งขันยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2024/25

UFANewads